เมื่อ PIN และ recovery seed อาจจะไม่เพียงพออีกต่อไปในการรักษาความปลอดภัยของสินทรัพย์คริปโตที่เก็บไว้ใน Hardware Wallet การพิจารณาใช้ Passphrase จึงเป็นทางเลือกในการรักษาความปลอดภัยของคริปโตที่นักลงทุนเลือกใช้มากขึ้น
Passphrase เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่จะยกระดับความปลอดภัยด้านไซเบอร์สำหรับผู้ที่มีคริปโตไว้ในครอบครอง เป็น feature ที่น่าสนใจบนอุปกรณ์ Trezor ซึ่งเป็น Hardware Wallet ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน มีจุดเด่นด้านความปลอดภัย ความสะดวกสบายในการใช้งานและสามารถทำกิจกรรมด้านการเงินที่เกี่ยวกับคริปโตได้หลากหลาย ตัว Passphrase จะช่วยป้องกันสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้ใช้งานอีกชั้น นอกเหนือจากเลข PIN และ recovery seed
เมื่อมีการใช้งาน Passphrase อุปกรณ์ Trezor จะขอให้ผู้ใช้งานใส่ “ secret phase” หรือกลุ่มคำที่ผู้ใช้งานตั้งค่าไว้เองทุกครั้ง นอกจาก PIN ที่เป็นตัวเลขเมื่อต้องการจะเชื่อมต่อการใข้งานกับอุปกรณ์ Trezor

Passphrase คืออะไรและมีวิธีการทำงานอย่างไร?
เมื่อผู้ใช้งานเลือกใช้งาน Passphrase ทางอุปกรณ์จะขอให้ผู้ใช้งานสร้าง Passphrase และกรอกลงไปในอุปกรณ์ Trezor จากนั้น ระบบจะรวมเอา recovery seed ที่ระบบสุ่มมาให้ผู้ใช้งานซึ่งมีอยู่แล้วเข้ากับรหัสที่ผู้ใช้งานเลือกเองและสร้าง Wallet ใหม่ขึ้นมา
หมายความว่า ทุกครั้งที่ผู้ใช้งานการสร้าง Passphrase ขึ้นมา ก็จะมีกระเป๋าสตางค์ใหม่เกิดขึ้นมาด้วยเช่นกัน โดยกระเป๋าสตางค์ใหม่นี้ก็จะถูกผูกกับ recovery seed เดิมของผู้ใช้งานตลอดไป ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
โดย Passphrase สามารถเป็นเป็นคำ วลี ตัวอักษรหรือกระทั่งประโยคใดก็ได้ที่มีตัวอักษรมากกว่า 50 คำ หากผู้ใช้งานไม่ได้กรอก Passphrase ก็จะสามารถเข้าใช้งานได้เพียงกระเป๋าสตางค์ดั้งเดิมที่มีการตั้งค่า recovery seed เท่านั้น

ใช้ Passphrase เพื่อเพิ่มความปลอดภัยกับอุปกรณ์ Trezor
หากผู้ใช้งานเลือกใช้ Feature พิเศษอย่าง Passphrase ก็จะได้รับผลประโยชน์พิเศษหลักๆ 2 ข้อด้วยกัน ข้อแรกคือ Passphrase จะไม่สามารถเปลี่ยนได้เหมือนกับ PIN ซึ่งจะช่วยปกป้องอุปกรณ์ Hardware Wallet ของผู้ใช้งานไม่ให้ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตล่วงล้ำเข้ามาได้ ตัว PIN จะถูกเก็บไว้บนชิป แต่ Passphrase ที่ปกป้อง recovery seed ของผู้ใช้งานอีกทีจะไม่ได้ถูกเก็บไว้ที่ไหนเลย หมายความว่าแม้ว่าจะมีผู้ไม่ประสงค์ดีรู้ recovery seed ของผู้ใช้งาน ก็จะไม่สามารถแฮก Hardware Wallet เพื่อที่จะขโมยเอา Passphrase และขโมยเอาสินทรัพย์ดิจิทัลออกไปได้ นอกจากจะให้ผู้ใช้งานเป็นคนบอก Passphrase เอง
ประโยชน์ข้อที่สองก็คือ Passphrase จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาได้มากมาย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดสรรสินทรัพย์ดิจิทัลของตนเองได้ตามที่ต้องการมากขึ้น
อีกกรณีที่น่าสนใจและเกิดขึ้นยาก แต่ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้อย่างการถูกข่มขู่เพื่อล้วงเอาเลข PIN เพื่อที่จะเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลใน Hardware Wallet หากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ผู้ใช้งานสามารถบอกเพียง PIN ตัวเลข (ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายหลัง) เพื่อให้ผู้ไม่หวังดีสามารถเข้าได้เพียงกระเป๋าสตางค์ดั้งเดิมที่ผู้ใช้งานอาจจะไม่ได้เก็บสินทรัพย์ดิจิทัลเอาไว้ทั้งหมดแทน Passphrase จึงเป็นเหมือนกุญแจป้องกันความปลอดภัยอีกขั้นที่ผู้ใช้งานจะเลือกใช้งานหรือไม่ก็ได้ ด้วยการใช้งานที่ไม่ซับซ้อนแต่อำนวยความสะดวกได้ทั้งในเรื่องของการจัดสรรบัญชีการลงทุนได้มากมายไม่จำกัดและช่วยป้องกันการถูกแฮกเกอร์หรือโจรที่จะเข้ามาขู่เอารหัส Hardware Wallet เพื่อที่จะขโมยเอาสินทรัพย์คริปโตอันมีค่าของผู้ใช้งานไป Passphrase จึงถือว่าเป็นอีก Feature หนึ่งที่ผู้ถือคริปโตควรพิจารณาใช้งานอย่างยิ่งทีเดียว