แพลตฟอร์ม Metaverse สุดฮอตที่สามารถเข้าไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในโลกเสมือนจริง

Metaverse คือโลกเสมือนจริงที่สร้างขึ้นมาในโลกของดิจิทัล เป็นเหมือนดินแดนที่ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปดำเนินชีวิตและสัมผัสประสบการณ์ที่เหนือชั้น รวมถึงการติดต่อกับคนที่อยู่อีกฝากโลกหนึ่งได้ง่ายๆ เพียงแค่ปลายนิ้ว

ปัจจุบัน แม้การทำธุรกิจออนไลน์จะได้รับความนิยมอย่างมากและช่วยเพิ่มโอกาสทางด้านธุรกิจอย่างมาก แต่ Metaverse ก็จะเข้ามาเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้อย่างมาก ด้วยจุดเด่นที่ช่วยทำให้โลกที่กว้างใหญ่เหมือนจะเล็กลงและทำให้การติดต่อสื่อสาร การทำธุรกิจระหว่างประเทศทำได้ง่ายขึ้น โดยการทำงานของระบบ Blockchain จะเข้ามาช่วยให้โลก Metaverse สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะ Blockchain จะทำให้โลก  Metaverse สามารถปฏิบัติงานได้อย่างราบรื่นด้วยแนวคิดกระจายศูนย์ (DAO) ซึ่งทำให้ระบบสามารถทำงานได้โดยปราศจากเซิร์ฟเวอร์ ที่จะล้มทันทีหากเซิร์ฟเวอร์ถูกโจมตี  นอกจากนั้นเทคโนโลยี Blockchain ก็ทำให้สามารถสร้าง NFT (Non-Fungible token) ผูกติดกับไอเท็มในโลก Metaverse ทำให้ไอเท็มเหล่านั้นมีเอกสิทธิ์เพียงหนึ่งเดียวและสามารถซื้อขายได้ไม่ต่างกับของในโลกแห่งความจริง

Decentraland

Decentraland เป็นแพลตฟอร์ม Metaverse ที่ชื่อดัง ก่อตั้งโดย Ari Meilich และ Esteban Ordano ทั้งคู่เป็นชาวอาร์เจนติน่าและได้เริ่มโปรเจคดังกล่าวในปี 2015 หลังจากนั้นเปิดให้ผู้ใช้งานได้ลองเข้ามาในแพลตฟอร์มตั้งแต่ปี 2020 เรียกได้ว่า Decentraland เป็นแพลตฟอร์มโลกเสมือนจริง Metaverse ที่เก่าแก่ที่สุดแพลตฟอร์มหนึ่งเลยก็ว่าได้ โดย Decentraland เป็นแพลตฟอร์มโลกเสมือนจริง 3 มิติแบบ open-source มีโทเค็นประจำแพลตฟอร์มอย่าง MANA อยู่บนเครือข่าย Ethereum

พื้นที่เกมส์เรียกว่า LAND หรือที่ดิน ซึ่งจะมีอยู่จำกัด สามารถซื้อขายและเป็นเจ้าของในรูปแบบ NFT (Non-Fungible Token) ได้ โดยผู้ที่เป็นเจ้าของ LAND จะสามารถสร้างบ้านหรือทำกิจกรรมใดๆ กับที่ดินก็ได้ สามารถทำธุรกิจได้บนที่ดินเหมือนจริงได้เหมือนที่ดินโลกจริงๆ เลยทีเดียว

Decentraland ใช้ระบบดำเนินการแบบ DAO (Decentraland DAO) เป็นหลัก โดย DAO ย่อมาจาก Decentralized Autonomous Organization ซึ่งเป็นระบบกระจายศูนย์ที่ทำงานร่วมกันแบบอัตโนมัติ ซึ่งแต่ละไอเท็มบน Decentraland จะทำงานบน Smart Contract ไม่ว่าจะเป็น LAND ตึกรามบ้านช่อง อุปกรณ์สวมใส่ เซิร์ฟเวอร์เนื้อหาและตลาดซื้อขาย (Marketplace) โดยผู้ที่ถือเหรียญ MANA ก็มีสิทธิ์โหวตเพื่อกำหนดแนวทางของแพลตฟอร์ม เรียกได้ว่า Decentraland เป็นแพลตฟอร์ม Metaverse ที่กระจายศูนย์อย่างแท้จริง

Decentraland ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร J.P. Morgan Samsung และอื่นๆ อีกมากมายที่เข้ามาซื้อ LAND บนแพลตฟอร์มเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ในการส่งเสริมธุรกิจ

Decentral Games (DG)

เมื่อไม่นานมานี้ Decentral Games หรือ DG ได้ร่วมมือกับ Decentraland เปิดคาสิโนออนไลน์บนโลกเสมือนของ Decentraland โดยสามารถให้ผู้คนทำการมินท์ชุด ICE Poker Set ซึ่งเป็น NFT ที่ใช่เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของ Decentral Games

The Sandbox

The Sandbox เป็นโปรเจคที่ก่อตั้งโดยองค์กร Pixowl  ที่ก่อตั้งโดย Arthur Madrid และ Sebastien Borget  ทาง The Sandbox เป็นโลกเสมือนจริงที่ผู้เล่นสามารถสร้าง เป็นเจ้าของและสร้างรายได้จากเกมส์ที่ตัวเองสร้าง อยู่บนระบบ Ethereum และมีโทเค็นของแพลตฟอร์มอย่าง SAND และมีจุดเด่นที่คาแรคเตอร์ในเกมส์จะเป็นกล่อง Pixel แบบ 3D และมีสภาพแวดล้อมแบบเกมส์ Minecraft ที่ให้ผู้เล่นเข้าไปสัมผัสประสบการณ์ในที่ดิน (LAND) ต่างๆ โดย LAND ใน The Sandbox จะมีอยู่จำกัด เพียงแค่ 166,464 LAND เท่านั้น

The Sandbox มีบทบาทสำคัญในโลกเสมือนจริง Metaverse มีธุรกิจมากมายที่เข้าไปซื้อ LAND บน The Sandbox ไม่ว่าจะเป็น Gucci Adidas หรือศิลปินคนดังอย่าง Snoop Dogg นอกจากนั้น ยังมีประสบการณ์ (Experience) จากเกมส์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากซีรีย์ชื่อดัง The Walking Dead และอีกมากมาย

ในระบบใช้โทเค็น SAND ที่ทำให้คุณซื้อขาย LAND และไอเท็มต่างๆ บน Metaverse และเป็นแพลตฟอร์มกระจายศูนย์ที่นำเอาเทคโนโลยีของ DAO หรือ Decentralized Autonomous Organization มาใช้ ทำให้เป็นแพลตฟอร์มกระจายศูนย์อย่างแท้จริง

Horizon Worlds – Meta

Horizon Worlds เป็นโปรเจคโลกเสมือนจริง Metaverse ของบริษัทโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook (ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Meta) ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นวิวัฒนาการของการเชื่อมต่อทางด้านสังคมแบบใหม่และทำให้โลกเสมือนจริง กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้ใช้งาน

เทคโนโลยีของ Meta จะใช้เทคโนโลยี 3D และนอกจากนั้นยังมีเทคโนโลยี Virtual reality (VR) หรือก็คือการจำลองสภาพแวดล้อมจริงเข้าไปให้เสมือนจริงและ Augmented Reality (AR) และ Augmented Reality (AR) หรือก็คือเทคโนโลยีโลกเสมือนผสานโลกแห่งความจริง ซึ่งขอบอกว่าทาง Meta ลงทุนกับเทคโนโลยี AR/VR แบบสุดตัว

Meta มีการพัฒนาอุปกรณ์พิเศษขึ้นมาอีกหนึ่งอย่าง ก็คือ Smart glasses ที่เป็นการร่วมมือระหว่าง Meta และบริษัทผลิตแว่นยักษ์ใหญ่อย่าง Ray-Ban เป็นเทคโนโลยีที่สวมใส่ได้และเหมือนเป็นประตูเข้าสู่โลกของ Metaverse ทำให้ผู้ใช้สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับโลกรอบๆ ผู้ใช้งานได้ นอกจากนั้นยังสามารถบันทึกเสียงและภาพได้ ผ่านการควบคุมโดยการสัมผัส เป็นการยกระดับการผจญภัยของผู้ใช้งานอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ

Axie Infinity

เกมส์ออนไลน์ที่เรียกได้ว่าปลุกกระแสเกมส์บน Blockchain แบบ Play-to-Earn ซึ่งอยู่บนระบบ Ethereum เกมส์ Axie Infinity ก่อตั้งโดยนักพัฒนาชาวเวียดนามและได้รับเงินทุนจากมหาเศรษฐี  Mark Cuban และ Alexis Ohanian โดยเกมส์ได้รับแรงบันดาลใจจากเกมส์โปเกมอน ก็คือการผสมพันธ์ Monster นำมาตั้งเป็นทีมและต่อสู้กันกับผู้เล่นอื่นๆ

Axie Infinity ใช้โทเค็นอยู่ 2 โทเค็นด้วยกัน ก็คือ SLP หรือ Smooth Love Potion เพื่อใช้ในการผสมพันธ์และอัพสกิลของ Monster ในเกมส์และเหรียญ AXS ซึ่งจะเป็น Governance Token ให้ผู้ถือสามารถกำหนดแนวทางการพัฒนาของเกมส์ได้ ตามแบบฉบับโปรเจคที่ดำเนินการแบบกระจายศูนย์

สิ่งที่ทำให้ Axie Infinity กลายเป็นเกมส์ที่ได้รับความนิยมก็คือรายได้ที่ผู้เล่นได้จากเกมส์ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงพีคๆ ) มีจำนวนมาก เรียกได้ว่าอาจจะแซงหน้ารายได้จากกงานประจำสำหรับผู้เล่นที่อยู่ในบางประเทศ และตัวละครในเกมส์และไอเท็มต่างๆ ก็เป็น NFT (Non-Fungible Token) ซึ่งสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนกันได้ใน Marketplace

ตอนนี้ Axie Infinity กำลังก้าวหน้าไปอีกขั้นโดยการเปิดการซื้อขายที่ดินในเกมส์หรือที่เรียกว่า Genesis  ถือว่าเป็นการพัฒนาระบบไปสู่โลกเสมือนจริง Metaverse โดยได้รับความนิยมอย่างมากเลยทีเดียว มีการซื้อขายกันในมูลค่าหลายร้อย Ethereum เรียกได้ว่า Axie Infinity ได้พัฒนาธุรกิจ ไม่ใช่เป็นเพียงเกมส์บน Blockchain แต่จะสร้างโลก Metaverse ขึ้นมาเลยทีเดียว

โลก Metaverse เป็นสิ่งที่ผู้คนเฝ้าใฝ่ฝันว่าจะเกิดขึ้นมานานแล้ว หากแต่อาจจะขาดเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยให้ความฝันนี้กลายเป็นจริง เทคโนโลยี Blockchain อาจจะเป็นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การพัฒนา Metaverse  และเปลี่ยนโลกที่เราคุ้นเคยได้ตลอดกาล อย่างไรก็คาม การพัฒนาก็อยู่ในช่วงเริ่มต้นมากๆ ยังจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาในอนาคต ซึ่งนานเท่าไหร่ก็ยังไม่มีใครล่วงรู้